Tixget เป็นเว็บไซต์จองตั๋วสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นระบบ Booking Platform หลังบ้านที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สามารถขายบัตร ทัวร์ เวิร์คช้อป คลาสโยคะ ดำน้ำ ทำอาหาร โดดร่ม และกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้โดยตรง
สถานที่ท่องเที่ยวในโลกนี้นั้นมีอยู่มากมายหลายแห่ง โดยเฉพาะประเทศไทยที่ถึงแม้จะเป็นประเทศที่ไม่ได้ใหญ่โตกว่าใครมากมาย แต่ก็เป็นศูนย์รวมของสถานที่สวยงามต่างๆ ไว้เยอะมาก แต่เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการเก็บค่าเข้าชม หรือมีการขายบัตร ทำให้บางครั้งนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก็อาจจะมีเงินไม่ถึง หรือต้องเสียเวลาต่อคิวเป็นเวลานานกว่าจะได้เข้าชม ตรงนี้เองที่ทำให้คุณบารมี นวนพรัตน์สกุล เกิดประกายความคิด และเริ่มต้นทำสตาร์ทอัพที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการขายตั๋วในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมา นามว่า Tixget
Tixget คืออะไร
คุณบารมี: Tixget เป็นเว็บไซต์ในการจองตั๋วสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นระบบ Booking Platform หลังบ้านที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สามารถขายบัตร ทัวร์ เวิร์คช้อป คลาสโยคะ ดำน้ำ ทำอาหาร โดดร่ม และกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้โดยตรง เราสังเกตว่าในกลุ่มวงการการท่องเที่ยวจะมีเว็บไซต์ที่ขายที่พักโรงแรม แบบ Agoda ขายตั๋วเครื่องบิน แบบ Expedia แต่ว่าเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว พวก Attraction ยังไม่มีเว็บไซต์ที่โดดเด่น เราก็เลยคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นช่องว่างทางการตลาดที่เราน่าจะมาลองจับดู
มีการลงพื้นที่ Research ก่อนเริ่มทำธุรกิจจริงมากน้อยแค่ไหน
คุณบารมี: เราก็ได้ทำการ Research เบื้องต้นเหมือนกันครับว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เวลามาเที่ยว บางทีจะไม่รู้ว่า ควรจะไปเที่ยวที่ไหนดี ไม่มีเว็บไซต์ในการหา เข้าไปเสิร์ช Google ต้องเข้าไปจองตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่ละแห่งๆ บางที่ก็ไม่มีจองออนไลน์ เราก็คิดว่าเราจะรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มารวมอยู่ในเว็บไซต์เดียวกัน เมื่อเราไปติดต่อตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในการที่ขอตั๋วมาขาย ก็พบว่าสิ่งที่เขายังขาดจะเป็นพวกระบบ Booking หลังบ้านที่จะช่วยนำให้เขาทำงานได้ง่ายขึ้น คิดว่าตรงนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการที่จะสร้างรายได้ได้เหมือนกัน
ผลตอบรับหลังจากเปิดตัวได้ 1 ปี เป็นอย่างไร
คุณบารมี: ตรงส่วนที่เป็นของระบบในการ Booking ของสถานที่ท่องเที่ยว ตอนนี้เราก็มีลูกค้าอยู่จำนวน 9 ราย ที่นำระบบของเราไปใช้ ช่วงต้นปีนี้ก็จะมีเพิ่มมาอีก 4 ราย ก็จะเป็นระบบในการที่จะช่วยทำให้เขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นระบบขายตั๋วให้กับพวกนักท่องเที่ยว เราเริ่มจากการทำ B2B ก่อน เพราะระบบแพลตฟอร์มมันค่อนข้างใหญ่ หลังจากนั้นเราจึงโยกมาโฟกัสทางด้าน B2C เมื่อประมาณ 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจึงยังอยู่ในช่วงของการเริ่มต้น เพราะในเรื่องของการทำ B2C ค่อนข้างใช้เวลาเยอะพอสมควร เป็น Long-term กว่าที่จะสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จัก
ซึ่งตอนนี้ของเรายังไม่มีแอปพลิเคชั่น จะเป็นการใช้เว็บไซต์ที่เป็นแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถเสิร์ชเพื่อใช้งานได้
นอกจากจองตั๋วล่วงหน้าแล้ว Tixget อำนวยความสะดวกในด้านใดบ้าง
คุณบารมี: นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามา Book ตั๋วได้ และจ่ายเงินออนไลน์ได้ ซึ่งลูกค้าจะได้เป็น E-mail Confirm เป็น QR Code เวลาเขาเข้าไปใช้สถานที่ท่องเที่ยวเขาก็เข้าไปสแกนที่จุดเข้าขายตั๋วได้เลย
มีการแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็นหมวดหมู่อย่างไรบ้าง
คุณบารมี: ตอนนี้เราก็มีแบ่งค่อนข้างหลากหลายหมวดหมู่ เช่น สวนน้ำ สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ ดินเนอร์บนเรือแม่น้ำเจ้าพระยา เกม สนามเด็กเล่น ทัวร์ Activity ต่างๆ ก็จะมีเยอะพอสมควร และในแต่ละกลุ่มก็จะแบ่งเป็นจังหวัดต่างๆ เช่น กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ก็จะเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวใหญ่ๆ ที่เราโฟกัสอยู่ เพราะว่าทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์จะเริ่มลดจำนวนลงแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่เที่ยวเอง นักท่องเที่ยวเที่ยวเองเขาก็จะมีการวางแผนล่วงหน้าด้วยตัวเขาเอง แต่ละคนก็จะต้องมีการจองตั๋วล่วงหน้า ก็จะเป็นช่องทางหนึ่งในการที่จะสอดรับกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นตรงนี้
ความยากลำบากที่ Tixget ต้องเจอตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา
คุณบารมี: ก็จะเป็นเรื่องของ เป็น Nature ของอุตสาหกรรมนี้ที่ตลาดค่อนข้างหลากหลายพอสมควร เพราะว่านักท่องเที่ยวก็มาจากหลากหลายประเทศ และรวมถึงคนไทยด้วย ซึ่งความต้องการก็จะค่อนข้างแตกต่างกันเยอะมาก ส่วนตัวสถานที่ท่องเที่ยวเองก็จะมี Operation ที่ไม่เหมือนกันอย่างเช่น สวนน้ำ พิพิธภัณฑ์ ก็จะมี Operation แตกต่างกัน พวกเรือทานอาหารในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็จะมี Operation แบบของเขาเอง เพราะฉะนั้นเราไม่ต้อง Customize ตัวระบบของเรา รวมถึงเว็บไซต์ของเราให้มันเข้ากับระบบการจองของแต่ละที่ ซึ่งมันค่อนข้างที่จะยากกว่าการทำระบบจองพวกโรงแรม พวกเครื่องบิน เพราะว่าพวกนั้นก็จะมี Operation เหมือนกันหมดอยู่แล้ว แต่ของเรามันแตกต่างกันแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นมันจะเป็นจุดที่ค่อนข้างยากพอสมควร
มีวิธีการทำการตลาดแบบใดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด
คุณบารมี: ตอนนี้ก็จะเน้นเรื่องของ Digital Marketing, SEO, Social Media มีออกบูธตามงาน Event ต่างๆ อีกหนึ่งวิธีการเพิ่มช่องทางการขายก็คือ ทำป้าย QR Code เพื่อที่ให้นักท่องเที่ยวสแกน และเข้าเว็บไซต์เราได้ทันที เราจะวางป้ายไปที่ Hostel ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ตอนนี้เราวางไปแล้ว 40 กว่าแห่งเป็น Hostel ที่ Backpacker หรือนักท่องเที่ยวชอบมาเที่ยวหาประสบการณ์โลก โรงแรมระดับสามดาวลงมา หรือตามข้าวสาร สุขุมวิท สามย่าน สีลม พระนคร
เราไปทำ Research มาว่า นักท่องเที่ยวจะไปถามที่ทางเคาน์เตอร์ของทางโรงแรมว่า มีอะไรแนะนำไหม ที่จะไปเที่ยวในละแวกนี้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่โรงแรมเขาก็จะไม่มีบริษัททัวร์อยู่ในโรงแรม เขาก็จะแนะนำตามประสบการณ์ของเขาเอง แต่ว่าถ้านักท่องเที่ยวเห็นป้ายของเราในการที่จะสแกน เขาก็สามารถที่จะเข้าไปเลือกซื้อตั๋ว เลือกซื้อทัวร์ ใช้งานได้ทันที่ จ่ายเงินได้ทันที ก็จะมีรถรับ-ส่งไปรับที่โรงแรมเลยแล้วก็พานักท่องเที่ยวกลับมาส่งที่โรงแรม
ตอนนี้มีคนที่เริ่มทำ Business Model แบบนี้มากน้อยแค่ไหน
คุณบารมี: ณ ตอนนี้ รูปแบบของเราก็คือเจ้าเดียวในประเทศไทย แต่ต่างประเทศเราก็จะมีคู่แข่งใหญ่ๆ อยู่ 2-3 เจ้า ที่ฮ่องกงก็มีอยู่เจ้าหนึ่ง และที่อเมริกามีอยู่อีกเจ้าหนึ่ง ซึ่งเริ่มมีมาบุกในตลาดไทยแล้วในตอนนี้ แต่ว่าสถานที่ในไทยก็ยังถือว่ายังไม่เยอะเท่าเรา ส่วนใหญ่เขาจะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวเอเชีย อย่างฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี
ในอนาคต Tixget จะพัฒนาอะไรเพิ่มเติมขึ้นบ้าง
คุณบารมี: เราต้องเติมพวกสถานที่ท่องเที่ยว พวกที่เป็น Supplier ของเรา พวกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นต่างประเทศมากขึ้น เพื่อที่จะให้คนไทยเข้ามาใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะตอนนี้เราเน้นการท่องเที่ยวในไทย ตอบรับความต้องการของตลาดต่างชาติมากกว่า แต่จริงๆ แล้วคนไทยไม่ค่อยชอบเที่ยวในเมืองไทย แต่จะชอบไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะฉะนั้นก็ต้องหา Destination ที่เป็นต่างประเทศมากขึ้น
มีคำแนะนำอย่างไรสำหรับคนที่ต้องการเริ่มทำ Startup
คุณบารมี: ต้องค่อนข้างมี Passion พอสมควร การทำ Startup ค่อนข้างที่จะเสี่ยงนะครับ และต้องเรียนรู้เร็วในการที่จะทำ สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเองหลายอย่างพอสมควร เพราะ Resource ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ จนกว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่มาลงทุน เพระฉะนั้น Passion ก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้คนที่สนใจอยากทำ Startup จริงๆ ไม่ล้มเลิกไปกลางคันซะก่อน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้โตได้ไปจนถึงจุดที่จะมีนักลงทุนเข้ามา ก็จะมีตัว Passion เป็นตัวขับเคลื่อนในช่วงแรก
ที่มา: BangkokSME